จัดฟันแบบใส ใช่สำหรับเราไหม ? หรือจัดฟันแบบไหนดี ? พร้อมบอกข้อดีของการจัดฟัน

ถึงแม้การจัดฟันแบบใส จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ทางการแพทย์ แต่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพราะมีสถานพยาบาลที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ทำให้มีราคาและโปรโมชันที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ในขณะที่การจัดฟันรูปแบบเดิม ก็ยังเป็นทางเลือกของคนที่มีปัญหาฟันไม่สวย ซึ่งได้รับความสนใจไม่ต่างกัน เพราะการจัดฟันแต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป

การจัดฟันมีกี่แบบ ?ข้อดีข้อเสียมีอย่างไรบ้าง?

การจัดฟัน เป็นวิธีการรักษาฟันรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้เครื่องมือจัดฟัน (Dental Braces) เพื่อรักษาความผิดปกติของฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม, เรียงตัวผิดปกติ จนทำให้เกิดปัญหาในการสบฟัน, การปิดปาก, การเคี้ยว, การพูด และยังอาจส่งผลต่อโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร และรูปหน้าได้อีกด้วย

จัดฟันแบบใส

จัดฟันใส

การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือใส ผิวเรียบ สามารถถอดออกได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจัดฟัน แต่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็น หรือไม่อยากให้เกิดความรู้สึกระคายเคือง จากเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟันแบบโลหะ โดยก่อนการจัดฟัน จะมีการประเมินการเรียงตัวของฟันด้วยคอมพิวเตอร์สามมิติ จากนั้นจะพิมพ์แบบฟันเพื่อส่งห้องแลบ แล้วจะได้เครื่องมือจัดฟันกลับมาประมาณ 10-20 ชื้น เพื่อปรับให้ฟันเคลื่อนไปเรื่อย ๆ ทุก 2-4 สัปดาห์ ตามการประเมินของทันตแพทย์

 ข้อดี

  • วัสดุจัดฟันแบบใส ไม่สะดุดตา จึงไม่ต้องกังวลเรื่องภาพลักษณ์
  • ลดปัญหาการพูดไม่ชัด ที่เกิดจากการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น
  • สามารถถอดเครื่องมือออกได้ เมื่อต้องการทานอาหารหรือแปรงฟัน
  • ลดปัญหาฟันผุ, เหงือกอักเสบ ที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น
  • ลดความรู้สึกระคายเคืองช่องปาก จากการสัมผัสโลหะที่ใช้จัดฟันแบบเดิม
  • ลดความรู้สึกเจ็บปวด ที่เกิดจากการใช้ยางดึงฟันหรือขยับลวดดึงฟัน
  • สามารถเปลี่ยนชุดจัดฟันได้เองตามกำหนด
  • ไม่ต้องพบทันตแพทย์เป็นประจำ
  • ใช้ระยะเวลาการจัดฟันน้อยกว่า

 ข้อจำกัด

  • เป็นการจัดฟัน ราคาสูงที่สุด เมื่อเทียบกับการจัดฟันทุกรูปแบบ
  • หากมีปัญหาฟันเก, ฟันซ้อน, ฟันห่างมาก อาจได้ผลไม่ดีนัก
  • ถ้าคนไข้ไม่ใส่เครื่องมืออย่างน้อย 22-23 ชม. ต่อวัน การจัดฟันจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
  • เครื่องมือจัดฟันโปร่งใส ถอดออกง่าย จึงอาจถอดแล้วลืมได้ง่าย

จัดฟันแบบดามอน

ดามอล

 การจัดฟันแบบดามอน (Damon®) เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือโลหะติดแน่น ที่ใช้ เครื่องมือพิเศษ Self-ligating Braces เทคโนโลยีแบบบานพับ ทำงานร่วมกับลวดชนิดพิเศษ ที่จะค่อย ๆ ดึงให้ฟันเข้าที่ตามที่วางแผนไว้ โดยไม่ต้องใช้ยางดึงฟันเสริม

 ข้อดี

  • ข้อดีของการจัดฟันแบบนี้คือ แก้ไขปัญหาฟันไม่สวย ฟันผิดปกติได้ทุกรูปแบบ
  • วัสดุที่ใช้ สามารถช่วยลดความรู้สึกระคายเคืองช่องปากได้
  • ลดความรู้สึกเจ็บปวด จากการใช้ยางดึงฟัน
  • พบทันตแพทย์น้อยกว่า การจัดฟันแบบโลหะหรือแบบเซรามิก
  • ใช้ระยะเวลาการจัดฟัน น้อยกว่าการจัดฟันแบบโลหะและแบบเซรามิก

 ข้อจำกัด

  • มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ แต่ย่อมเยากว่าการจัดฟันแบบใส
  • ทำความสะอาดลำบาก เพราะเครื่องมือติดแน่นกับผิวฟัน
  • เกิดปัญหาในช่องปากได้ง่าย หากทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
  • อาจรบกวนการพูดและการเคี้ยวอาหารได้

จัดฟันแบบเซรามิก

เซรามิก

 การจัดฟันแบบนี้จะใช้เครื่องมือยึดติดฟัน ที่ทำมาจากเซรามิก (Ceramic Braces) ซึ่งมีสีเหมือนฟัน ทำให้มองดูเนียนตามากขึ้น ไม่สังเกตเห็นแบบชัดเจน แต่ลวดที่ดึงระหว่างที่ยึดติดฟันยังเป็นโลหะ และยังคงต้องใช้ยางสีดึงฟันอยู่

ข้อดี

  • แก้ปัญหาฟันไม่สวย, ฟันเก, ฟันห่าง, ฟันไม่สบ, ฟันเหยิน ได้ทุกรูปแบบ
  • สีเครื่องมือยึดติดฟันกลมกลืนกับสีฟัน ทำให้ดูสะดุดตาน้อยลง
  • วัสดุจัดฟันเซรามิก ทำให้เกิดความระคายเคืองเยื่อบุช่องปากน้อยกว่าโลหะ

ข้อจำกัด

  • เป็นการจัดฟัน ราคาสูง เกือบใกล้เคียงกับการจัดฟันแบบดามอน
  • ทำความสะอาดช่องปากลำบาก เพราะมีทั้งเครื่องมือติดฟันและยางรัดฟัน
  • เกิดปัญหาฟันผุและหินปูนได้ง่าย หากทำความสะอาดไม่ดี
  • วัสดุเซรามิกอาจแตกหักได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับวัสดุโลหะ
  • สีจากยางดึงฟันอาจติดบนผิวเซรามิกได้
  • ต้องพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอทุก 4-6 สัปดาห์

จัดฟันแบบโลหะ

โลหะ

การจัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces) เป็นวิธีมาตรฐาน ที่สามารถดึงฟันให้เรียงตัวได้อย่างสวยงาม วัสดุที่ยึดติดบนผิวฟัน ทำจากโลหะทางการแพทย์ชั้นดี ซึ่งต้องใช้ประกอบกับยางสีดึงฟัน เพื่อช่วยให้ฟันเข้าที่ตามต้องการ

 ข้อดี

  • เป็นการจัดฟัน ราคาย่อมเยาที่สุด เมื่อเทียบกับแบบอื่น
  • ข้อดีของการจัดฟันแบบนี้คือ สามารถดึงฟันที่ผิดปกติทุกรูปแบบให้เข้าที่ได้
  • สร้างภาพลักษณ์ใหม่ได้ทุกเดือน ด้วยการเปลี่ยนสียางดึงฟัน

ข้อจำกัด 

  • ทำความสะอาดลำบาก เหมือนการจัดฟันแบบเซรามิก
  • เกิดปัญหาฟันผุ, เหงือกอักเสบ และแผลในช่องปากได้ง่าย หากดูแลไม่ดี
  • เครื่องมือจัดฟัน อาจทำให้พูดไม่ชัดเจนในช่วงแรก
  • ต้องมีเวลาพบทันตแพทย์อย่างทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อปรับลวดและเปลี่ยนยางดึงฟัน

จัดฟันแบบใสดีกว่าแบบอื่นไหม ?

การจัดฟันแบบใช้เครื่องมือใส สามารถช่วยแก้ปัญหาฟันไม่สวยได้ แต่หากฟันมีความผิดปกติของการเรียงตัวมาก การจัดฟันแบบใสอาจไม่เหมาะสมนัก อีกทั้งยังเป็นการจัดฟัน ราคาสูงเมื่อเทียบกับแบบอื่น แต่ก็แลกมากับ ปัญหาสุขภาพระหว่างการจัดฟันที่น้อยกว่า, ดูแลช่องปากง่ายกว่า, ใช้ระยะเวลาการจัดฟันสั้นกว่า, พบแพทย์น้อยกว่า รวมทั้งยังได้ภาพลักษณ์ที่ดี ไม่ต้องกังวลเวลาพูด เวลายิ้ม หรือแม้แต่กระทั่งตอนทานอาหารอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม, ความพอใจ และงบประมาณของแต่ละบุคคล คงไม่มีใครตัดสินได้ว่าการจัดฟันแบบไหนดีที่สุด นอกจากตัวคุณเอง

ข้อดีของการจัดฟัน

ทำความสะอาดฟันง่ายขึ้น

เมื่อฟันเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ จะทำให้คุณสามารถดูแลฟันได้ง่ายขึ้น แปรงฟันได้ทั่วถึงทุกบริเวณ โดยเฉพาะการจัดฟันแบบใส ที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ ทำให้ดูแลช่องปากได้ไม่ต่างกับก่อนจัดฟันเลย

ฟันแข็งแรงขึ้น

 ไม่ว่าจัดฟัน ราคาเท่าไหร่ แต่หากจัดได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ฟันเรียงตัวเป็นระเบียบ และทำให้แปรงฟันได้ง่ายขึ้น จึงช่วยลดปัญหาฟันผุ ลดการเกิดคราบหินปูน ที่เคยอยู่ในบริเวณที่ฟันซ้อนทับกันได้

เหงือกแข็งแรงขึ้น

เมื่อฟันแน่นหรือห่างจนเกินไป จะทำให้เกิดสะสมของแบคทีเรียที่เหงือก ซึ่งยากต่อการทำความสะอาด จนอาจทำให้เหงือกอักเสบ เหงือกร่น และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ซึ่งหลังจากจัดฟันแล้ว โอกาสเกิดปัญหาเหล่านี้จะน้อยลงอย่างมาก

เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น

เมื่อฟันเรียงตัวเหมาะสม จะทำให้ฟันสบกันได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะการจัดฟันแบบใส ที่สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันได้ขณะทานอาหาร จึงจะไม่รบกวนการเคี้ยวอาหารระหว่างช่วงการจัดฟัน

พูดได้ชัดเจนขึ้น

 เมื่อฟันไม่สวย, ฟันห่าง, ฟันซ้อน, ฟันเหยิน, ฟันหลุบ อาจทำให้พูดไม่ชัดเจน และอาจมีน้ำลายกระเด็นผ่านระหว่างซอกฟันได้ ซึ่งการจัดฟันจะช่วยแก้ปัญหานี้ นอกจากนี้การจัดฟัน ยังช่วยปรับรูปหน้าของบางคนได้อีกด้วย

มั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เมื่อฟันเรียงตัวสวยงาม จะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในรอยยิ้มมากขึ้น สามารถเสริมสร้างบุคลิกที่ดีเวลาพูด ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

สรุป

ปัจจุบันนี้มีคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปาก ด้วยการจัดฟันมากขึ้น ซึ่งมีให้เลือก 4 รูปแบบหลัก ได้แก่ จัดฟันแบบโลหะ, จัดฟันแบบเซรามิก, จัดฟันแบบดามอน และจัดฟันแบบใส โดยแต่ละรูปแบบเป็นการจัดฟัน ราคาแตกต่างกัน มีข้อดีและข้อจำกัดไม่เหมือนกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนว่า ต้องการจัดฟันรูปแบบไหน โดยสามารถปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดได้ แต่ไม่ว่าจัดฟันรูปแบบไหน สุดท้ายก็จะได้ฟันที่เรียงตัวสวยงามเหมือนกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ และยังช่วยทำให้ดูแลช่องปากได้ดีขึ้น พร้อมกับมีสุขภาพฟันและเหงือกที่แข็งแรงขึ้นอีกด้วย